“บิ๊กตู่”ไปต่อไม่รอช้า ประกาศรวมไทยฯกลางเดือนนี้!?

การบ้านการเมืองเริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ “บิ๊กตู่” ไปต่อไม่รอช้า หลายพรรคเริ่มเคลื่อนไหวกันครึกโครม ทั้งการออกหลักการใหม่ เพื่อหาคะแนนนิยม แล้วก็ การเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร รองรับการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง อย่างไรก็ดี นาทีนี้ผู้ที่ “คุมเกม” ก็ยังเป็น “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ แล้วก็ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อยู่ดี โดยเฉพาะ อำนาจในการ “ยุบสภา” ที่อยู่ในมือเต็มที่
ทำให้ตอนนี้ หลายข้างกำลังจ้อง แล้วก็ พิจารณาการเปลี่ยนแปลงของ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าจะ “ลงมือ” เมื่อไร เพราะเหตุว่าการยุบสภา ย่อมมีผลด้านการเมือง กับทุกพรรค แล้วก็ ทุกกรุ๊ปการบ้านการเมืองเป็นลูกโซ่ เวลาเดียวกัน การตัดสินใจของเขา ไม่ว่าจะออกมาในแบบยุบสภา หรือว่า ปล่อยยาวจนกระทั่งครบกำหนด มันก็ล้วนมีนัยยะด้านการเมืองทั้งสิ้น
หากแยกโฟกัส พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกมา แน่นอนว่าทุกคนก็พอคาดเดากันได้อยู่แล้วว่า เขาต้องการไปต่อ อีกสองปี ตามกฎหมายที่เปิดทางเอาไว้ให้ รวมไปถึง รอดูว่า จะมีการเปิดตัวกับ พรรครวมไทยสร้างชาติ แล้วก็ ยุบสภาเมื่อไร
ปัจจุบัน เมื่อเที่ยงวันที่ 12 เดือนธันวาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวก่อนออกเดินทางไปยังกรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม เพื่อร่วมการประชุมสุดยอด อาเซียน – สหภาพยุโรป สมัยพิเศษ เพื่อฉลองวาระครบรอบ 45 ปี ความข้องเกี่ยว อาเซียน – สหภาพยุโรป (ASEAN – EU Commemorative Summit) ระหว่างวันที่ 12 – 15 เดือนธันวาคม 2565
โดยเมื่อมาถึง “บิ๊กตู่” นายกฯได้ทักสื่อมวลชนว่า อยู่กันดี ๆ นะ
แล้วต่อจากนั้นให้สัมภาษณ์หลังผู้สื่อข่าวถาม มีความเป็นห่วงเป็นใยบ้านเมืองอะไร หรือไม่ ระหว่างที่เดินทางไปเบลเยียม ว่า ไม่เป็นห่วงอะไรทั้งนั้น มีคนทำงานอยู่แล้ว เป็นการดำเนินงานไปตามระบบ นายกรัฐมนตรี ไม่อยู่ ก็มีรักษาการแทน ส่วนงานเขาก็ทำกันอยู่ทุกวัน เพราะเหตุว่า ระดับหลักการ นายกรัฐมนตรีได้สั่งไปหมดแล้ว กรรมการแต่ละระดับ เขาก็ดำเนินงานไป ผลสัมฤทธิ์ก็ตามมา
“ก็เป็นห่วงอย่างเดียวคือ เรื่องปัญหาความขัดแย้ง ลดๆกันเสียบ้าง เสนอข่าวอะไรก็เบาๆหน่อย สิทธิที่เขาจะพูดอะไรก็พูดได้ ไม่อย่างนั้นจะมีผลกับการทำงาน ในเวลานี้หลายอย่างจะต้องดำเนินการต่อ หนึ่ง สอง สาม ผ่านระยะที่ 1 ก็ต้องมีระยะที่ 2 ระยะที่ 3 ไปทำต่อ ถ้าพูดกันแล้วขัดแย้งกันไปทุกเรื่องจะไปได้อย่างไร วันเวลาที่เหลืออยู่ก็มีเวลาไม่มากนักหรอก ของรัฐบาลตามรัฐธรรมนูญ ทุกอย่างว่าไปตามนั้นหมด” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ
เมื่อถามถึงกรณีผลที่เกิดขึ้นจากการสำรวจ นิด้าโพล ที่คะแนนนิยม พล.อ.ประยุทธ์ ลดน้อยลง นายกรัฐมนตรีบอกว่า ไม่รู้เรื่องโพล ใครทำก็ไม่รู้เรื่อง ใครทำ ใครตอบ ก็ไม่รู้เรื่องเช่นกัน ไม่เป็นผลอะไร พร้อมทำท่า ผายมือทั้งสองข้าง ผู้สื่อข่าวถามย้ำ ว่า ผลโพลจะมีผลต่อการตัดสินใจ หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่า ไม่มี
เมื่อถามคำถามว่า กลับมาจากต่างประเทศคราวนี้ จะแสดงท่าทีด้านการเมืองที่แจ้งชัด ได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี บอกว่า “กลับมาค่อยว่ากัน”
คำว่า “กลับมาค่อยว่ากัน” ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดังที่กล่าวมาแล้ว ทำให้ถูกแปลความได้ว่า หลังจากสำเร็จการประชุมสุดยอดผู้นำ อาเซียน – สหภาพยุโรป หลังวันที่ 15 เดือนธันวาคม ทุกอย่าง จะมีการประกาศความกระจ่างแจ้งออกมา หรือไม่ แล้วก็ เป็นการ ร่นเวลา เข้ามาให้เร็วขึ้นหรือไม่
เพราะเหตุว่าหากจำกันได้ ก่อนหน้านี้ เขาเคยตอบปัญหาว่า “หลังเอเปก ก็คือปีหน้า” ซึ่งในความเป็นจริงในขณะนั้น ก็น่าจะเป็นต้นปีนั่นแหละ กับการถูกเซ้าซี้ ถามเรื่องอนาคตด้านการเมือง แม้กระนั้น อย่างไรก็ดี ก็ได้ความกระจ่างแจ้งมาแล้วหลังจากนั้นก็เป็น “จะไปต่ออีกสองปี” กับพรรครวมไทยสร้างชาติ
เพียงแต่ว่า ยังมิได้ประกาศอย่างเป็นทางการ เนื่องมาจากมั่นใจว่าเป็นเรื่องของ “มารยาท” เพราะเหตุว่าเขาได้รับการเสนอชื่อ เป็นนายกรัฐมนตรี จากพรรคพลังประชารัฐ ด้วยเหตุนี้ ทำให้การประกาศท่าทางด้านการเมืองใหม่ ก็เลยจำต้องทอดเวลา ออกไปก่อน
อย่างไรก็ดี เมื่อหลายพรรคการเมือง เริ่มมีการเคลื่อนไหว มีการเปิดนโยบายพรรค
รวมไปถึงการ “ย้ายพรรค” กันอย่างคึกคัก มันก็แปลงเป็น ตัวเร่งให้เขาจำต้องย่นเวลาเปิดตัว สร้างความกระจ่างแจ้งด้านการเมือง อย่างน้อย ก็เป็นการสร้างความมั่นใจและความเชื่อมั่น แล้วก็ การตัดสินใจของบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แล้วก็ กรุ๊ปการบ้านการเมือง ได้ตกลงใจ
อีกทั้งที่สำคัญยังมี “กลุ่มทุน” ที่จำต้องตกลงใจด้วย เนื่องมาจาก หากเคลื่อนไหวช้า หรือยังเงียบต่อไป อาจมีผลต่อการเตรียมตัวของพรรครวมไทยสร้างชาติที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้แย้มออกมาให้เห็นแล้ว แม้กระนั้น ถึงอย่างไร มันก็ควรมีความกระจ่างแจ้ง
ก่อนหน้านี้ ถ้าสำรวจบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แล้วก็ กรุ๊ปการบ้านการเมือง ที่ประกาศแจ้งชัดว่าจะตาม “บิ๊กตู่” ไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ ก็มี กรุ๊ป สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรภาคใต้ จำนวนหนึ่ง
มีรายชื่อแล้ว 3 – 4 คน กรุ๊ป สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร กรุ๊ปภาคกลาง ในสายของ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ที่มาตามกระแส แม้กระนั้น ยังมั่นใจว่าหลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ มีความกระจ่างแจ้งแล้ว คงจะมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอีกคนไม่ใช่น้อยตามมาอีก
แม้ว่าคนไม่ใช่น้อยเห็นว่า บรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ย้ายมาร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ส่วนใหญ่จะมาจาก พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ต่างจาก “ตกปลาในบ่อเพื่อน” เป็นการตัดคะแนนกันเองก็ตาม
แม้กระนั้น เวลาเดียวกัน อีกด้านหนึ่ง ยังประมาทมิได้ก็คือ “กระแส” ที่การบ้านการเมืองไทยยังแบ่งเป็น “สองขั้ว” อย่างเหนียวแน่น ระหว่าง “เอา ไม่เอา” ระบอบทักษิณ สำคัญ ๆจะเป็นแบบนี้ แม้ว่าอาจจะมีกรุ๊ปใหม่ที่เติบโตขึ้นมานั่นเป็น “กลุ่มคนรุ่นใหม่” แม้กระนั้นกลุ่มนี้ ก็หนุนพรรคก้าวไกล ที่ “ไม่เอาสถาบันฯ” เป็นหลักก็ตาม แม้กระนั้น เมื่อประเมินแล้ว มั่นใจว่ายังมิได้เติบโต ที่จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ ในทางตรงกันข้าม กลับไป “บ่อนเซาะ” พรรคเพื่อไทยของเครือข่าย ทักษิณ เสียมากกว่า
ส่วนกรุ๊ปไม่เอาทักษิณ มองตามภาพรวม ๆ ก็เป็นพรรคร่วมรัฐบาลในปัจจุบัน
ที่ตรึกตรองตามรูปการณ์แล้ว จะมีพรรคภูมิใจไทย นำโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล แล้วก็ “กลุ่มบุรีรัมย์” ที่เด่นขึ้นมา ได้โอกาสแทรกขึ้นมา เป็นนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้ง เพราะเหตุว่า มีการรุกคืบไปทุกภูมิภาค โดยเฉพาะภาคอีสานที่เป็นจุดชี้ขาด แม้กระนั้นนั่น เป็นเพราะเหตุว่า “บิ๊กตู่” ยังไม่ขยับอย่างสุดกำลัง
ด้วยเหตุนี้เมื่อมีการแย้มออกมาแล้วว่า หลังกลับจากยุโรป หลังวันที่15 ธันวาคม แล้ว มั่นใจว่าจำต้องแจ้งชัด เพราะเหตุว่าฝั่งตรงข้าม เริ่มเปิดเกมรุก แล้วก็ ขยับไปไกลแล้ว อาจรอคอยมิได้แล้ว
แล้วก็ เมื่อจำต้องประกาศท่าทาง มันก็จำต้องจัดเตรียม “ยุบสภา” เพื่อเปิดทางให้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ย้ายพรรคได้ทัน ซึ่งหากเป็นแบบนี้ มันก็คงจะเลือกตั้งกัน หลังปีใหม่ ราวต้นปี ดังที่เคยประกาศเอาไว้ก่อนหน้านี้ !!